1.ประเพณีไหลเรือไฟ
ประเพณีไหลเรือไฟเป็นประเพณีสำคัญที่ชาวอีสานสืบทอดปฏิบัติใน เทศกาลออกพรรษาทำกันในวันขึ้น 15 คํ่า หรือ แรม 1 คํ่า เดือน 11 ตามแม่นํ้าลำคลอง "เรือไฟ"หรือภาษาถิ่นเรียกว่า "เรือไฟ"นี้เป็นเรือที่ทำด้วยต้นกล้วย
2.งานนมัสการพระธาตุพนม
งานนมัสการพระธาตุพนมเป็นประเพณีที่ถึอปฏิบัติต่อเนื่องกันมาแต่โบราณกาล จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ไรมาชาวพุทธในลุ่มแม่น้ำโขง เมื่อถึงเดือน 3 ข้างขึ้น จะพากันหลั่งไหลมานมัสการกราบไหว้บูชาไปจนตลอดสิ้นเดือน3.ประเพณีโส้ทั่งบั้ง
ชาวโส้เป็นชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่ที่ ตำบลนาโพธิ์ ตำบลโพธิ์ไพศาล ตำบลนาเพีย อำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร และยังกระจัดกระจายอยู่ที่อื่นๆ เช่น ตำบลล้านค้อ ตำบลขมิ้น อำเภอท่าอุเทน อำเภอปลาปาก อำเภอศรีสงคราม กิ่งอำเภอดงหลวง และกิ่งอำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม
4.ประเพณีการแข่งเรือ (ส่วงเฮือ)
เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน โดยจัดขึ้นระหว่างงานบุญออกพรรษามีความ มุ่งหมายให้ชาวบ้านได้สนุกสนานร่วมกัน ก่อให้เกิดความสามัคคี ความเสียสละและเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง ประชาชนลาวและชาวไทยจัดขึ้นในลำน้ำโขงบริเวณเขื่อนหน้าเมืองนครพนม มีระยะทางการแข่งขัน 3 กิโลเมตร มีร่องน้ำที่ไหลเชี่ยวเป็นการยากลำบากมากในการแข่งขัน ดังนั้นผู้ชนะคือผู้เก่งที่สุดในแถบลุ่มน้ำโขง
5.ประเพณีแสกเต้นสาก
เป็นประเพณีของชนเผ่าแสกที่หมู่บ้านอาจสามารถ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองนครพนม ประมาณ 4 กิโลเมตร ประเพณีแสกเต้นสากเป็นการเต้นบวงสรวงเจ้าที่จะเต้นกันเป็นประจำทุกปี ในเดือน 3 ขึ้น 2 ค่ำ การเต้นสากนอกเทศกาลจะต้องทำพิธีขอขมาก่อน ของที่ใช้ได้แก่ หัวหมู เงิน และเหล้า ซึ่งจะทำพิธีที่ศาลเจ้าประจำหมู่บ้าน โดยการเสี่ยงทายไม้สี ถ้าได้สีเดียวกันแสดงว่าเจ้าไม่อนุญาต การเต้น "แสดเต้นสาก" ใช้ไม้ยาวทาสีแดงสลับขาวเรียก "สาก" นำด้วยเสียงกลองจังหวะเร็วผู้เต้นจะซอยเท้าถี่ ๆ ตามจังหวะการกระทบไม้คล้ายการเต้นลาวกระทบไม้แต่จะเร็วกว่ามาก